อเมริกา...คนเดียวก็เปรี้ยวได้ ตอน "...กว่าจะได้ไปอเมริกา..."

ฝน : “แกๆๆๆ..ฉันจองตั๋วไปนิวยอร์ก ไปด้วยกันป่ะ”

เพื่อน : “นิวยอร์กเหรอ ไม่ไปอะ ไปคนเดียวเลย”
ฝน : “โปรในตำนานเลยนะเธอ ถูกมาก”
เพื่อน : “ฉันจองไปที่อื่นดีกว่า”
ฝน : “เออ...ฉันไปคนเดียวก็ได้ เชอะ”

...นี่คือบทสนทนาของฝนกับเพื่อนสาว(นางเคยไปมาละแต่นางเจอประสบการณ์ไม่น่ารักนางเลยตอบมาเยี่ยงนี้) เมื่อช่วงปลายปี 2560 เป็นช่วงเวิ่นของการชวนเพื่อนไปด้วยเพราะราคาตั๋วถูกมากกกกกกกกกกกกเพราะเราได้ตั๋วโปรของสายการบิน Qatar มาในราคา 15,755 บาท แถมบินแบบมัลติซิตี้ไป-กลับต่างเมืองอีกต่างหาก เรียกได้ว่าเป็นโปรอภิมหาตำนานแห่งการไปมหานครนิวยอร์กสำหรับเราที่แท้ทรู ก็ต้องขอขอบคุณแอดโจ้ จากเพจเพื่อนบอกโปร ที่ขยันหาตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษๆมาเสิร์ฟลูกบ้านอย่างเราๆ ด้วยนะคะ 

…เอาละ ได้ตั๋วเครื่องบินเสร็จละ ก็ถึงคิวของที่พักแล้วซินะ...สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราแล้ว ถัดจากตั๋วเครื่องบินก็ที่พักนี่ละจะเป็นตัวชี้ชะตาว่าทริปนี้จะต้องเตรียมงบประมาณเท่าไหร่ เพราะค่ากินค่าเดินทางระหว่างทริปเราสามารถประหยัดได้ แต่ค่าที่พักนี่ซิคือตัวตัวแปรสำคัญพอๆกะตั๋วเครื่องบินสำหรับเราเลยละ อ้อ...บางคนอาจจะสงสัยทำไมไม่นอนโฮสเทลละ ราคาน่าถูกและดีมีเยอะไป ใช่ค่ะ...เราก็เคยมีความคิดที่อยากจะพักแบบนั้นแต่เมื่อสำรวจตัวเองแล้วพบว่าเป็นคนหลับยาก รู้สึกตัวเร็ว ได้ยินเสียงดังนิดหน่อยก็ตื่นแล้ว ดังนั้น โฮสเทลจึงไม่ใช่คำตอบสำหรับฝนค่ะ และโฮสเทลบางที่ราคาสำหรับพักคนเดียวนี่โครตแพงกว่า Business Hotel อีกนะคะ (เชื่อฝนๆหามาเยอะๆๆๆๆๆๆ)

....ทริปนี้ ฝนเลือกบินลงบอสตันและกลับทางนิวยอร์กค่ะ เรามีเวลาเปิดโลกท่องเที่ยวที่อเมริกา 10 วัน ฝนวางแผนไว้ว่าอยู่บอสตัน 4 วัน นิวยอร์ก 6 วันค่ะ...เมื่อสรุปวันได้ตามนี้ก็เปิดเวปจองที่พักหาที่ซุกหัวนอนกันเลยค่ะ ฝนเปิดทุกเวปหาที่พักที่น่าสนใจราคารับได้และโปรโมชั่นของบัตรเครดิตที่ร่วมรายการเพื่อเทียบราคาซึ่งถูกที่สุดก็ยังแพงสำหรับเราอยู่ดี คือก็รู้นะคะว่าที่พักอเมริกามันแพงแต่ไม่คิดว่าจะแพงเตลิดตเลยขนาดนี้ แพงกว่าสวิตอีกค่ะ (ร้องไห้ๆๆ) แต่ฝนก็ตัดสินใจจองแบบยกเลิกได้ไปก่อนเพราะนี่เพิ่งต้นปีเอง  เอาไว้วีซ่าผ่านแล้วค่อยจองแบบชำระเงินทันทีเลยแต่ก็เสี่ยงเพราะหากที่พักที่เล็งไว้ถูกคนอื่นจองไปก่อนค่ะ
แถ่น แถ่น แถ๊นนนนนน......ในท้ายที่สุด เมื่อวีซ่าผ่านก่อนเดินทาง 4 เดือนฝนก็ได้ที่พักดังต่อไปนี้ค่ะ ที่แรก ฝนเลือกห้องพักจาก Airbnb โดยพักที่เมืองเคมบริดส์ ติดๆกับบอสตัน นั่งรถไฟต่อเดียวถึงค่ะ สำหรับเกณฑ์ในการเลือกห้องพักจากที่นี่คือฝนจะดูว่าเจ้าของที่พักคนไหนได้ Super Host การันตีและมีรีวิวที่ดีจากผู้เข้าพัก รวมถึงมีคอมเม้นท์จากผู้เข้าพักตลอดค่ะ เพราะอย่างน้อยก็ช่วยรับประกันเรื่องความปลอดภัยได้ในระดับนึง และโอกาสที่จะเทน้อยมากๆค่ะ
   
     ที่พักที่เคมบริดส์ ของฝนชื่อ The Olive Room เจ้าของที่พักคือ มาเรียค่ะ โดยมาเรียเอาบ้านทั้งหลังมาทำเป็นห้องพักค่ะ มีขนาดและราคาแตกต่างกันไปแต่ละห้อง และถึงจะนอน Airbnb แต่ราคานี่เทียบเท่าโรงแรมได้เลยค่ะ บอกเลยว่าเจ็บมากสำหรับการพักในแถบนี้ ค่าที่พักของที่นี่ฝนจ่ายไปทั้งหมด 274.46 ดอลล่าห์ค่ะ ซึ่งจะรวมค่าห้อง ค่าทำความสะอาด และค่าธรรมเนียมในการดำเนินการของ Airbnb แต่บางโฮสก็ไม่คิดค่าทำความสะอาด บางโฮสค่าห้องพักดีมากแต่ค่าความสะอาดแพงโครต ดังนั้น ก่อนจองฝนแนะนำเพื่อนๆอ่านรายละเอียดต่างๆให้รอบคอบก่อนนะคะ เพราะเมื่อกดจองปุ๊ปจะต้องตัดบัตรเครดิตจ่ายเงินทันทีค่ะ อ้อ...แถมอีกนิดของ Airbnb ดีอย่างคือสามารถแบ่งได้จ่ายได้ครั้งละ 5O % ถ้ามูลค่ารวมของที่พักถึงเกณฑ์ที่กำหนด แน่นอนค่ะฝนเลือกแบ่งชำระด้วยเช่นกันด้วยหวังว่าค่าเงินดอลน่าจะลดลงสักนิดค่ะ 

   
สำหรับที่พักของมาเรีย เป็นบ้าน 2 ชั้น ห้องน้ำรวม มีห้องครัวพร้อมอุปกรณ์ครบครัน มีตู้กดน้ำเย็น น้ำร้อน มีเตาอบไมโครเวฟให้ใช้ มีตู้เย็นขนาดใหญ่ มีระเบียงให้นั่งเล่น และมีห้องนั่งเล่นให้ดูทีวีนอกจากดูในห้องส่วนตัวด้วยค่ะ ซึ่งมันโอเคมากสำหรับเราเพราะตั้งใจจะทำกับข้าวกินเองด้วยค่ะ

   
     การเข้าพักที่นี่จะใช้กุญแจไข 3 ดอกค่ะ เรียกได้ว่ามีความปลอดภัย 3 ชั้น ก่อนที่จะเข้าเช็คอินน์เราก็จะคุยกับมาเรียผ่านทางกล่องข้อความเพื่อแนะนำที่เที่ยว สอบถามเวลาเวลา เช็คอินน์ แล้วมาเรียก็จะบอกเราค่ะ ว่าจะสามารถรับกุญแจห้องได้ยังไง ซึ่งวันที่ฝนเดินทางไปถึงก็กดกริ๊งหน้าบ้านแล้วแม่ของมาเรียก็จะมารับค่ะ แถมช่วยยกกระเป๋าอีกตะหาก แล้วพาแนะนำการใช้งานส่วนต่างๆของบ้านค่ะ...อ้อวันเช็คเอ้าท์ก็สามารถฝากกระเป๋าได้นะคะ แต่ต้องคุยกับมาเรียล่วงหน้าก่อน เพราะปกติที่นี่จะไม่มีรับฝากกระเป๋าค่ะ 

     ส่วนการเดินทางมาที่นี่เราต้องนั่งรถบัสจาก Havard Square มาค่ะ ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที แต่ต้องดูตารางเวลารถมาดีๆ นะคะ เพราะถ้าพลาดก็รอนอนเหมือนกัน แต่ถ้าไม่อยากรอรถก็สามารถเดินจากที่พักมาฮาร์วาดได้เลยค่ะ ใช้เวลาเดิน 20-30 นาที ช่วงที่ฝนไปตรงกับฤดูใบไม้ร่วงอากาศกำลังดีเดินไปได้สบายๆ เลยค่ะ แถมวิวตลอดข้างทางก็ดีใบไม้กำลังเป็นสีเหลืองสวยงามมากๆๆๆๆ

     ส่วนที่พักที่ 2 ฝนจองผ่าน Airbnb เช่นเดียวกันค่ะ ฝนเลือกพักย่านบรูคลิน (Brooklyn) ย่านนี้ถ้าเป็นเมื่อก่อนถือว่าเป็นพื้นที่อันตรายของนิวยอร์กพอๆก็ย่านฮาเล็ม(Halem) บร๊องซ์ (Bronx) ซึ่งถ้าลองค้นในพันทิปก็จะเจอกระทู้เก่าๆเกี่ยวกับที่พักในนิวยอร์กก็จะเจอคำแนะนำว่าห้ามไปพักที่บรูคลินเต็มไปหมดเลยค่ะ.....แต่มันบ่ใช่สมัยนี้แล้วเน้อๆๆๆๆๆๆ คือจะบอกว่าตอนนี้มันเปลี่ยนไปเยอะมากค่ะ บรูคลินกลายเป็นย่านฮิป มีแกลอรี่แสดงศิลปะ มีแหล่งชิคๆ คูลๆ เยอะมากเหล่าอาร์ตติสชอบมาอยู่อาศัยย่านนี้ก็ขนาดชื่อลูกของเดวิดกับวิคตอเรีย เบคแฮม ยังตั้งชื่อลูกตัวเองว่าบรูคลินเลยค่ะ เดี๋ยวจะหาว่าฝนโม้เนอะ ^^+ 

     ที่พักที่บรูคลินของฝนชื่อ Crown Heights Comfort เดินทางสะดวกมี Subway หลายสายเดินทางเที่ยวเกาะแมนฮัตตันได้สบายเลยค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาทีก็นั่งดูผู้คน บ้านเมืองของที่นี่ไปไม่เบื่อเลยค่ะ โฮสของฝนเป็นคนญี่ปุ่นชื่อนาโอโกะค่ะ นาโอโกะอยู่อเมริกามา 7 ปีละคะ นาโอโกะน่ารักและช่วยเหลือเป็นอย่างดีเลยสมละกับที่ได้ Super Host 

     ฝนพักที่นี่ 3 คืนค่ะ ค่าเสียหาย 169.75 ดอลล่าห์ เป็นราคาที่ถูกและคุ้มค่ามากโดยฝนได้ส่วนลดจากการสมัครเป็นสมัครสมาชิกผ่าน Link ที่สมาชิกเดิมส่งมาให้ค่ะ เพื่อนๆสามารถสมัครจาก Link นี้>> https://abnb.me/e/zMSjbH6GmS ได้เลยนะคะจะได้ส่วนลดเกือบ 40 ดอลล่าห์ สำหรับใช้เป็นค่าส่วนลดที่พักสำหรับการจองครั้งแรก

     ที่ Crown Heights Comfort มีเครื่องอำนวยความสะดวกเกือบจะทุกอย่าง เว้นทีวีที่ไม่มีให้ค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะเอาเข้าจริงๆเวลาที่จะๆค่ะ เครื่องใช้ทุกอย่างนาโอโกะเตรียมไว้ให้หมดเลยค่ะ ไม่ต้องห่วง และข้อดีอีกอย่างของที่นี่คือ ห้องพักอยู่ชั้นเปิดดูมีน้อยมากแรกไม่ต้องยกกระเป๋าหนักๆ ขึ้นบันได้หลายชั้นค่ะ ไม่งั้นคงแย่แน่ แต่ข้อเสียคือเราจะได้ยินเวลาเจ้าของห้องพักคนอื่นเปิด-ปิดประตูเข้าอพาร์ทเม้นท์เสียงดังค่ะ แต่โดยรวมแล้วมันดีมากเลยค่ะ ถ้ามีโอกาสก็จะกลับไปพักอีกแน่นอน

     ส่วนที่พักที่สุดท้ายคือ Westside YMCA ค่ะ ฝนพักที่นี่ 3 คืน ในราคา 8853.69 บาท ซึ่งฝนใช้ส่วนลดจากคะแนนที่ฝนเก็บสะสมมาตลอดการเดินทางที่จองผ่านเวป Expedia และเลือกจ่ายผ่านบัตรเครดิตที่เข้าร่วมรายการและให้ส่วนลดดีที่สุดค่ะ ก็ถือว่าได้มาในราคาที่น่าคบหา ห้องเดี่ยว ห้องอาบน้ำรวม มีทีวี ตู้เย็น ของใช้ครบ ไม่มีไมโครเวฟให้นะคะ แต่ถ้าซื้อของในร้านของทางโรงแรมสามารถอุ่นอาหาร หรือขอน้ำร้อนในร้านได้ค่ะ โดยตอนจองฝนระบุไป Request ไปด้วยว่า ขอที่พักชั้นสูงๆ อยู่ห่างจากห้องน้ำ ลิฟท์ และมองเห็นวิวถนนค่ะ ซึ่งก็ได้เกินคำขอค่ะ เพราะวิวห้องที่ได้มามันคุ้มค่ามากเพราะห้องนอนของเราได้วิวสวยๆจาก Central Park ค่ะ แบบว่าห้องหลักพันแต่วิวระดับหมื่นล้านประมาณนี้ค่ะ เว่อร์เนอะ 555++ 

     ที่นี่มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนสให้เล่น มีทัวร์บริการฟรีสำหรับผู้เข้าพักด้วยนะคะ แต่ฝนไม่ได้จอยเลยซักกะอย่าง

     ตอนพักที่นี่คืนแรกแจ็คพอตเลยจ้า ทีวีไม่มีเสียง รู้ก็ตอนตี 2  สุดท้ายไปๆมาๆ ช่างเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้เสร็จเอาตอนตี 3 โอ้ววววววววมายกอด ยังค่ะชีวิตในเกาะแมนฮัตตันของมหานครนิวยอร์กค่ำคืนแรกยังไม่หมดเพียงเท่านั้น พอจะล้มตัวลงนอนก็ต้องตื่นตะลึงกับผ้าห่มที่สุดแสนจะบางเบาท่ามกลางอากาศหนาว 10 องศาต้นๆ ค่ะ ทำไงได้ค่ะ ตี 3 กว่าแล้วไม่มี Room Service แล้วค่ะ โอเค๊ร ได้ พี่ก็ยอมรับสภาพนอนขดวนไปค่ะ จนตื่นเช้ามาตาดันไปเห็นห้องข้างๆ อ้าวววววอินี่มันมีผ้านวมให้นี่แล้วห้องฉ้านนนนนนละ เมื่อคืนคืออะไรทดสอบจุดเยือกแข็งของพี่ช่ายมะ หรือหักส่วนลดจากค่าห้องของพี่ โถววววว....นี่ซินะวิถีชีวิตของคนริจะเป็น New Yorker ร้องไห้ๆๆๆๆๆๆๆ....แต่คืนที่ 2 ได้ผ้าห่มมาแล้วนะคะนี่คือดีใจน้ำตาไหลพี่บ่ต้องนอนหนาวอีกแล้ววววววว